โปรแกรม
เสริมจมูก
"ประเมินเคสต่อเคส ออกแบบให้เฉพาะกับแต่ละบุคคล"
9,900.-
"วิวัฒนาการ การเสริมจมูก"
วัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูก
ซิลิโคนจมูก
ซิลิโคนจมูก วัสดุที่ใช้ในทางการแพทย์ โดย มีทั้งแบบเหลาเอง และ แบบที่เป็นทรงแล้ว เช่น Mantis หรือ ซิลิโคนแบรนด์อื่นๆ ที่นำเข้าจาก USA หรือ เกาหลี
เนื้อเยื่อเทียม
วัสดุที่ใช้ในทางการแพทย์ เป็นวัสดุที่สังเคราะห์ขึ้นจาก คอลลาเจน สามารถเข้ากับร่างกายได้
ซิลิโคนจมูก
กระดูกอ่อนมีลักษณะโค้งงอเล็กน้อย นำมาจากส่วนหลังหูของเราเอง มีความแข็งแรงทนทาน ลดความเสี่ยงเรื่องปลายจมูกบางได้ดี
กระดูกซี่โครง
มีความแข็งแรงและมาจากร่างกายเรา สามารถใช้เพิ่มความโด่งให้สันจมูก และเพิ่มความพุ่งสวยให้บริเวณปลายจมูก ช่วยลดโอกาสจมูกล้มในอนาคตค่ะ
ปัญหาจมูกของคนเอเชีย
ปัญหาเนื้อจมูกน้อย
จมูกเนื้อน้อย คืออะไร?
การมีเนื้อจมูกน้อยหมายความว่าจมูกมีเนื้อเยื่อที่น้อยซึ่งอาจส่งผลต่อความสวยงามและโครงสร้างของใบหน้า
วิธีทดสอบเนื้อจมูก
- ใช้นิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มือ จับที่บริเวณกึ่งกลางของสันจมูก
- หยิบเนื้อจมูกแล้วทดลองดึงดูว่ามีความยืดหยุ่นประมาณไหน
- กรณีดึงได้เยอะ อาจจะมีโอกาสที่จะเสริมให้มีสันดั้งที่โด่งได้ แต่ถ้าแทบดึงไม่ออก แสดงว่าเนื้อจมูกน้อยนั่นเอง
ปัญหาจมูกสั้น
จมูกสั้นสามารถสังเกตได้จากการไม่สมส่วนกับใบหน้าทั้งหมด
การสังเกตและวัดสัดส่วนจมูก
- ความยาวของสันจมูกที่ไม่สมส่วน
- วัดจากสันจมูกจากด้านบนลงมาจนถึงปลายจมูก
สัดส่วนจมูกที่ดี
โดยทั่วไป สัดส่วนความยาวของจมูกควรอยู่ที่ประมาณ 1/3 ของความยาวใบหน้า ถ้าสั้นกว่านี้ แสดงว่าจมูกสั้น
เทคนิคเสริมจมูกมีกี่แบบ แตกต่างกันอย่างไร?
เทคนิคการเสริมจมูกที่ได้รับความนิยมมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือ การผ่าตัดแบบปิด (Closed Rhinoplasty) เเละเเบบเเก้ไขโครงสร้าง หรือ การผ่าตัดแบบเปิด (Open Rhinoplasty) ทั้ง 2 เทคนิคนี้มีข้อดีที่เเตกต่างกัน
การเสริมจมูกแบบปิด (Closed Rhinoplasty)
การผ่าตัดแบบปิด (Closed Rhinoplasty) เป็นการผ่าตัดเสริมจมูกโดยแผลผ่าตัดจะอยู่ภายในจมูกของคนไข้ เพื่อทำการใส่วัสดุเสริมเข้าไปทางด้านใน ซึ่งเป็นที่นิยมมากเพราะจะทำให้มองไม่เห็นแผลผ่าตัด โดยขั้นตอนจะเป็นการผ่าตัดร่วมกับยาชา เป็นการผ่าตัดเล็ก ใช้เวลาในการผ่าตัด 60-90 นาที ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของเคสนั้นๆ โดยวัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูกแบบปิด ได้แก่
- ซิลิโคน (Silicone)
- วัสดุรองปลายจมูก ช่วยลดการทะลุ เพิ่มความหนาของเนื้อเยื่อจมูก
- เนื้อเยื่อเทียม (Megaderm)
- เนื้อเยื่อก้นกบ (Dermofat Graft)
- กระดูกหลังหู (Ear Cartilage)
การเสริมจมูกแบบเปิด หรือเสริมจมูกโอเพ่น (Open Reconstruction)
การเสริมจมูกแบบเปิด หรือเสริมจมูกโอเพ่น Open Reconstruction
การเสริมจมูกแบบปรับโครงสร้าง เปิดจมูกเข้าไปเคลียร์ปัญหาของจมูกได้กว้างเกือบทุกปัญหาและแก้ไขโครงสร้างภายในลดขนาดปลาย รวมถึงการยืดผนังกั้นจมูก เป็นการต่อแกนจมูกจริงให้ยาวขึ้น เป็นเทคนิคที่เคลียร์ปัญหาได้อย่างตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นปัญหาจมูกแบบไหน เช่น ฮัมพ์สูง จมูกงุ้ม จมูกโต จมูกสั้นแหงน จมูกไม่มีสันเลย จมูกเนื้อน้อย เป็นต้น ทำให้ผลลัพธ์หลัง เสริมจมูกแบบโอเพ่น สวยเรียว ยาวและพุ่ง มากขึ้น ด้วยเทคนิคปลายไร้ซิลิโคน ที่คอสมาแคร์คลินิกเท่านั้น
เหมาะกับใคร ?
เทคนิคนี้เหมาะสำหรับผู้มีปัญหาด้านโครงสร้างจมูก หรือต้องการแก้ไขจมูกจากปัญหา เช่น จมูกแบน จมูกคด จมูกชมพู่ เบี้ยว มีฮัมพ์ จมูกที่เคยติดเชื้อ เป็นต้น ซึ่งเทคนิคนี้ จะต้องมีการวางยาสลบ ซึ่งการวางยาสลบที่คอสมาแคร์ จะอยู่ภายใต้การดูแลของวิสัญญีแพทย์ ระยะเวลาที่ใช้ผ่าตัดอย่างน้อย 4-6 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของเคสนั้น
เทคนิคเสริมจมูกด้วยกระดูกอ่อนหลังหู (Ear Cartilage)
เทคนิคกระดูกหลังหู จะช่วยในการป้องกันจมูกทะลุจากการเสริมจมูกได้ดี เป็นการใช้ซิลิโคนเหลาเอง เฉพาะบุคคลเเละเพิ่มการรองปลายจมูก โดยใช้กระดูกอ่อนหลังหูเเละผนังกั้นจมูกร่วมกับเนื้อเยื่อ เพื่อป้องกันไม่ให้ซิลิโคนเสียดสีกับปลายจมูกโดยตรง โดยจะเปิดเเผล บริเวณปลายจมูก 2 ข้างเเละเปิดเเผลหลังหูประมาณ 2-3 เซนติเมตร ช่วยให้ปลายยกตั้งขึ้น ดูมีมิติ ลดปัญหาปลายจมูกทะลุ ทำให้ปลายจมูกดูสวย และเป็นธรรมชาติขึ้น
เทคนิคเสริมจมูกด้วยกระดูกอ่อนซี่โครง
สามารถนำไปปรับโครงสร้างจมูกได้ค่อนข้างดี โดยเฉพาะคนที่มีการปรับแก้จมูกมาหลายรอบหรือ ต้องการให้ทำครั้งเดียวแล้วจบไม่ต้องแก้ในอนาคต เนื่องจากกระดูกมีความแข็งแรง ทำให้เมื่อนำไปเสริมจมูก จะได้จมูกที่มีความเป็นธรรมชาติ แต่แข็งแรง ความปลอดภัยสูงที่สุดและคงทนในระยะยาว
เทคนิคแก้ไขโครงสร้างด้วยกระดูกซี่โครงตัวเอง
- แผลเล็กใต้ราวนมเพียง 1.5 – 3 เซนติเมตร ใช้ซี่โครงอ่อนซี่ที่ 5, 6 หรือ 7
- ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของแต่ละบุคคล)
เสริมจมูกแบบแก้ไขโครงสร้าง เทคนิคกระดูกซี่โครงดีอย่างไร
- สามารถยืดปลายจมูกให้พุ่งสวยได้มากกว่า เทคนิคอื่น
- ใช้วัสดุจากร่างกายของผู้ผ่าตัด
- กระดูกซี่โครงมีความแข็งแรง
สรุปข้อดี – ข้อเสีย ของการเสริมจมูกเทคนิคซี่โครง
ข้อแตกต่างเสริมจมูกด้วยกระดูกซี่โครง กับกระดูกอ่อนหลังหู
ข้อดีของการเสริมจมูกด้วยกระดูกอ่อนซี่โครง
- เหมาะกับผู้ที่มีเนื้อจมูกบาง ปลายจมูกสั้น หรือต้องการแก้ไขจมูกที่มีโครงสร้างซับซ้อน หรือต้องการแก้ไขจมูกที่มีโครงสร้างซับซ้อน
- ผลลัพธ์ถาวร เมื่อกระดูกอ่อนเข้าที่แล้ว จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างจมูก ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่
- สามารถยืดปลายจมูกให้พุ่งสวยได้มากกว่า เทคนิคอื่น
- ใช้วัสดุจากร่างกายของผู้ผ่าตัด
- กระดูกซี่โครงมีความแข็งแรง
ข้อเสียของการเสริมจมูกด้วยกระดูกอ่อนซี่โครง
- เป็นการผ่าตัดที่ซับซ้อน ใช้เวลานานกว่าการเสริมจมูกด้วยซิลิโคน การผ่าตัดจำเป็นต้องใช้ทักษะและประสบการณ์ของแพทย์ จึงใช้เวลานานเวลานานกว่าการเสริมแบบซิลิโคน
- มีรอยแผลเป็นบริเวณซี่โครง โดยจะมีรอยแผลเป็นบริเวณซี่โครง ซึ่งอาจสังเกตเห็นได้ ขึ้นอยู่กับเทคนิคการผ่าตัดและการดูแลรักษาของแต่ละบุคคล
- มีค่าใช้จ่ายสูง ค่าใช้จ่ายในการเสริมจมูกด้วยกระดูกอ่อนซี่โครง โดยทั่วไปจะสูงกว่าการเสริมจมูกด้วยซิลิโคน
ข้อแตกต่างเสริมจมูกด้วยกระดูกซี่โครง กับ กระดูกอ่อนหลังหู
เสริมจมูกด้วยกระดูกซี่โครง
เหมาะกับ : ผู้ที่มีเนื้อจมูกน้อย ปลายจมูกบาง ผู้ที่มีปัญหาจมูกสั้น โครงสร้างจมูกเตี้ย ผู้ที่เคยแก้จมูกหลายครั้ง หรือแก้จมูกที่เคยเสริมด้วยซิลิโคนแล้วทะลุ
ระยะเวลาพักฟื้น : 2-4 สัปดาห์ หลังการผ่าตัด
ข้อดี | ข้อเสีย |
1.ผลลัพธ์แลดูเป็นธรรมชาติ 2.ปรับโครงสร้างจมูกได้หลากหลาย 3.เหมาะกับการแก้จมูก |
1.การผ่าตัดซับซ้อน ใช้เวลานาน 2.ต้องดมยาสลบ 3.มีแผลผ่าตัดบริเวณซี่โครง 4.อาจเกิดอาการชาบริเวณซี่โครงชั่วคราว |
เสริมจมูกด้วยกระดูกอ่อนหลังหู
เหมาะกับ : ผู้ที่มีเนื้อจมูกเพียงพอ ปลายจมูกไม่บางมาก ต้องการปรับปลายจมูกให้โด่ง เรียว หรือแก้ไขปลายจมูกที่เบี้ยว
ระยะเวลาพักฟื้น : 1-2 สัปดาห์ หลังการผ่าตัด
ข้อดี | ข้อเสีย |
1.แผลผ่าตัดไม่ใหญ่มาก 2.พักฟื้นเร็ว 3.ไม่ต้องผ่าตัดบริเวณซี่โครงเพิ่มเติม |
1.ปริมาณกระดูกอ่อนหลังหูมีจำกัดอาจไม่เพียงพอสำหรับการเสริมจมูกบางเคส 2.ผลลัพธ์อาจดูแข็งทื่อ ไม่เป็นธรรมชาติเท่าการใช้กระดูกซี่โครง |
สรุปข้อดี – ข้อเสีย
ของการเสริมจมูกแบบเปิดและแบบปิด
ข้อดีของการเสริมจมูกแบบโอเพ่น
- เหมาะกับแก้ปัญหาจมูกคนไข้ทุกเคสเป็นเทคนิคที่ทำให้เห็นโครงสร้างภายในได้อย่างละเอียด
- สามารถแก้ไขรูปทรงจมูกได้เป็นอย่างดี
- สามารถตกแต่งปลายจมูกให้เป็นรูปทรงได้แม้ไม่ต้องใส่ซิลิโคน
- ลดโอกาสจมูกทะลุป้องกันจมูกเบี้ยวเอียงได้
ข้อเสียของการเสริมจมูกแบบโอเพ่น
- อาจเห็นรอยแผลหลังผ่าตัดบริเวณจมูกได้อย่างชัดเจน
- การผ่าตัดมีความซับซ้อนมาก จึงต้องอาศัยแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้น
- มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง
- ใช้ระยะเวลาในการผ่าตัดนาน และมีการวางยาสลบ
ข้อดีของการเสริมจมูกแบบปิด
- เหมาะกับคนไข้ที่เสริมจมูกครั้งแรก และไม่มีปัญหาโครงสร้างจมูก
- ไม่ต้องใช้การวางยาสลบ
- ใช้เวลาพักฟื้นน้อย
- ไม่เห็นรอยแผลการผ่าตัดเสริมจมูก เนื่องจากซ่อนอยู่ภายในโพรงจมูกใช้
- เวลาผ่าตัดน้อย เหมาะกับคนไข้ที่
- ต้องการจมูกโด่ง ๆ มีราคาที่ถูก
ข้อเสียของการเสริมจมูกแบบปิด
- หากจมูกมีปัญหาซับซ้อนมาก จะไม่สามารถแก้ไขได้
- ไม่สามารถลดขนาดของจมูก หรือสันจมูกให้เล็กลงได้
- มีโอกาสเสี่ยงจมูกทะลุได้
- จมูกอาจเกิดการเบี้ยวเอียงได้
ทำไมต้องเสริมจมูก ที่ คอสมาแคร์คลินิก
- แพทย์ประสบการณ์ในเคสผ่าตัดศัลยกรรมจมูกมานานกว่า 15 ปี
- ระบบห้องผ่าตัด เครื่องมือ อุปกรณ์ที่มีความทันสมัย เชื่อถือได้ตามมาตรฐานระดับเดียวกับโรงพยาบาล
- ประเมิน วิเคราะห์โครงหน้าอย่างละเอียด โดยแพทย์
- เหลาซิลิโคนเองทุกเคส เพื่อให้การทำจมูกออกมาสวยรับกับใบหน้าคนไข้แต่ละราย
- รับประกันดูแลหลังเสริมจมูกนาน 1ปี
ห้องผ่าตัดที่มี
"มากกว่ามาตรฐาน"
คอสมาแคร์คลินิก ได้รับมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก จากองค์กรรับรองมาตรฐานสถานพยาบาลระดับสากล ห้องผ่าตัดที่เน้นความสะอาดปลอดภัย อุปกรณ์ปลอดเชื้อ เพื่อให้ความสวยมาพร้อมความปลอดภัย
รีวิวเสริมจมูก
การดูแลและปฏิบัติตัวก่อน-หลังเสริมจมูก
การปฏิบัติตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัดเสริมจมูก
- หลักจากปรึกษาแพทย์เรียบร้อยและได้ข้อสรุปแผนการรักษา ประเมินค่าใช้จ่าย นัด
- หมายวันเวลาในการผ่าตัดคนไข้ควรปฏิบัติตามแนวทางดังนี้
- หากมีโรคประจำตัวหรือทานยาใดเป็นประจำ ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบก่อนเข้ารับการผ่าตัดเพื่อให้แพทย์ประเมินความพร้อมของร่างกาย
- งดน้ำและอาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมง
- งดวิตามิน อาหารเสริมและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- งดแต่งหน้าและทาเล็บ
- งดใส่คอนแทคเลนส์หรือเครื่องประดับทุกชนิด
- งดสูบบุหรี่หรือบุหรี่ไฟฟ้า อย่างน้อย 2 สัปดาห์
- ควรมีผู้ติดตามอย่างน้อย 1 คน (หลีกเลี่ยงการขับรถด้วยตัวเอง)
- หากมีไข้ เป็นหวัด หรือ ป่วยก่อนเข้ารับการผ่าตัด ให้คนไข้แจ้งเจ้าหน้าที่ๆดูแลทันที
วิธีดูแลตัวเองหลังการเสริมจมูก
หลังการผ่าตัดเสริมจมูกหรือปรับโครงสร้างจมูก อาจมีการบวมช้ำหลังทำ ซึ่งนับเป็นอาการปกติที่พบได้ในทุกการผ่าตัด ทั้งนี้อาการบวมช้ำนั้นขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล
- งดแผลโดนน้ำ จนกว่าจะตัดไหม เพราะหากแผลเปียกชื้น จะทำให้เกิดการอักเสบ ติดเชื้อได้
- งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้เลือดไม่หยุดไหล และ ทำให้แผลหายช้าลง เสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น
- ประคบเย็น 1 อาทิตย์แรก ช่วยลดปวดลดบวม
- หลังครบ 7 วันให้ประคบอุ่น ช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว เพิ่มการไหลเวียนของเลือด
- นอนยกหัวสูง ให้สูงกว่าระดับหัวใจ ช่วยลดบวมจากเลือดที่คั่งอยู่ ช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น
- ทานยาตามที่แพทย์สั่ง